บทความธุรกิจรับสร้างบ้าน 2566
224 จำนวนผู้เข้าชม |
“หากย้อนหลังกลับไปราว ๆ 20 ปีที่แล้วหรือก่อนปี พ.ศ. 2547 ขณะนั้นผู้บริโภคและประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่เข้าใจว่า “บริษัทรับสร้างบ้าน” แตกต่างอย่างไร เมื่อเปรียบเทียบกับ “ผู้รับเหมาสร้างบ้านรายย่อยทั่วไป” ในเวลาต่อมา จึงเกิดการรวมตัวกันของกลุ่มผู้ประกอบการรับสร้างบ้านชั้นนำที่แข่งขันอยู่ในธุรกิจ ณ ขณะนั้น โดยมีการกำหนดคำนิยามลักษณะของธุรกิจรับสร้างบ้านหรือบริษัทรับสร้างบ้าน พร้อม ๆ กับประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่าง ๆ เพื่อทำความเข้าใจกับผู้บริโภคและประชาชนทั่วไป ตลอดจนผู้ประกอบการในแวดวงของธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง กระทั่งธุรกิจรับสร้างบ้านเริ่มเป็นที่เข้าใจและยอมรับของผู้บริโภคมากขึ้น และถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ธุรกิจรับสร้างบ้านมีการเติบโตและขยายตัวออกไปทั่วประเทศ ซึ่งจากเดิมธุรกิจรับสร้างบ้านและผู้ประกอบการเกือบทั้งหมด เปิดดำเนินการธุรกิจกระจุกตัวอยู่เฉพาะในกรุงเทพฯ และปริมณฑลเท่านั้น รวมถึงการเกิดขึ้นของผู้ประกอบการรายใหม่ ๆ มีทั้งประเภทรับสร้างบ้านมืออาชีพ มือสมัครเล่น และมิจฉาชีพต่างทยอยและหมุนเวียนเข้ามาสู่ธุรกิจรับสร้างบ้านอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด
ปัจจุบัน ปัญหาความไม่เข้าใจของผู้บริโภคที่มีต่อธุรกิจรับสร้างบ้านยังคงไม่หมดไป แต่บริบทได้เปลี่ยนไปตามโลกยุคติจิตอลใบใหม่ กล่าวคือความเป็น “บริษัทรับสร้างบ้านมืออาชีพ” มีความแตกต่างกันอย่างไร เมื่อเปรียบเทียบกับ “บริษัทรับสร้างบ้านมือสมัครเล่น” และ “มิจฉาชีพรับสร้างบ้าน” ปัญหานี้แม้จะดูคล้ายคลึงกับในอดีต แต่ทว่ากลับเป็นเรื่องยากของผู้บริโภคต่อการตัดสินใจว่าผู้ประกอบการรายใดเป็นมืออาชีพแท้จริง และสิ่งที่ยืนยันได้ว่าเรื่องนี้ได้ดีก็คือ ปัญหาผู้ประกอบการสร้างบ้านไม่เสร็จและทิ้งงาน ยังคงมีข่าวที่สื่อมวลชนนำมาเผยแพร่ให้ได้รับรู้กันอยู่บ่อย ๆ และมักพบว่าปัญหาที่เกิดขึ้น 99 % มาจากการที่ผู้บริโภคเลือกใช้บริการหรือว่าจ้าง “ผู้ประกอบการมือสมัครเล่น” และ “มิจฉาชีพรับสร้างบ้าน” อาจสะท้อนได้ว่าแม้การเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้ง่ายในโลกยุคดิจิตอลก็ตาม แต่ผู้บริโภคก็ยังหนีไม่พ้นต้องตกเป็นเหยื่อ ด้วยเพราะไม่เข้าใจถึงความแตกต่างระหว่าง “ผู้ประกอบการ” กับ “มิจฉาชีพ” ที่แฝงตัวเข้ามาหลอกลวง
อนาคต หากกลุ่มผู้ประกอบการรับสร้างบ้านมืออาชีพในธุรกิจนี้ ยังไม่เห็นถึงภัยคุกคามว่าด้วยเรื่องความน่าเชื่อถือและความเข้าใจที่ถูกต้องของผู้บริโภค แต่ยังคงสาระวนอยู่กับการยกระดับมาตรฐานธุรกิจรับสร้างบ้านอย่างไม่เป็นรูปธรรม หรือมุ่งเน้นทำกิจกรรมการตลาดเป็นสำคัญ เชื่อว่าความไม่เข้าใจของผู้บริโภคก็ยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญต่อภาพลักษณ์ธุรกิจรับสร้างบ้านและความน่าเชื่อถือต่อไป และผลกระทบที่ตามมาก็คือภัยคุกคามจากธุรกิจที่ใกล้เคียงกัน เช่น บ้านจัดสรร, สถาปนิกออกแบบ+ผู้รับเหมา, ผู้รับเหมารายย่อย และหนีไม่พ้นมุ่งแต่จะแข่งขันด้วยราคากันตลอดไป สุดท้ายธุรกิจรับสร้างบ้านก็เป็นได้แค่ “บอนไซ” (ดูสวยงาม แต่เตี้ยแคระ)
